โรคผิวหนังต่างๆ ที่เกิดกับผิวส่วนใดของร่างกายก็จะเรียกชื่อกันไป ตามลักษณะอาการ และ ตำแหน่งที่เกิด ตามตำราการแพทย์แผนไทย เรียกชื่อโรคผิวหนังเรื้อรังรักษายากในกลุ่มโรคเรื้อน เช่น เรื้อนกวาง เรื้อนมูลนก เรื้อนวิมาลา เรื้อนหูด เรื้อนเกล็ดปลา เรื้อนบอน เรื้อหิด เรื้อนดอกหมาก เรื้อนมะไฟ (ที่กล่าวมาเป็นโรคผิวหนังชนิดรุนแรง รักษายาก หรือเป็นอติสารโรค ) โรคผิวหนังในกลุ่มของไข้ไพษไข้กาฬและโรคซึ่งเกิดจากอาการแพ้ และติดเชื้อแบคทรีเรีย ไวรัสต่างๆ โดยมีอาการกับร่างกายต่างกัน และคล้ายๆกัน เช่น ฝี ,กุฎฐโรคพิกัดในกองธาตุ 4 ,ไข้พิษไข้กาฬ 21 จำพวก, ไข้รากสาด 9 จำพวก ,ไข้ประดง ,ไข้กาฬ10 จำพวก, ฝีกาฬในไข้พิษ 10 ประการ ,ไข้กระโดง 4 จำพวก, ฝีกาฬ 6 ชนิด (โรคในกลุ่มนี้ปัจจุบันมีผู้ป่วยมากมาย แต่โรคเหล่านี้ยังรักษาได้ ถ้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง)ปัจจุบันพบว่ายังมีโรคอีกหลายโรคที่ติดต่อโดยการร่วมเพศ แต่ไม่ใช่กามโรคที่แท้จริงรวมอยู่ในกลุ่มโรคนี้ด้วย คือ หนองในเทียม (ใช้เฉพาะในชาย) หูดหงอนไก่ เชื้อรา พยาธิในช่องคลอด เริ่ม
หูดข้าวสุก หิดที่อวัยวะสืบพันธุ์ ตัวโลน เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ ในปัจจุบันจึงเปลี่ยนชื่อกามโรคว่า
“โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์”
(sexually transmitted diseases)
ซิฟิลิส เกิดจากเชื้อทริโปนีมาพอลลิดุม (tryponema pollidum) มีระยะฟักตัวโดยเฉลี่ย 10-30 วัน
อาการในระยะแรก จะมีแผลเกิดขึ้น เรียกว่า แผลริมแข็ง
มักเป็นที่บริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกลักษณะแผลมีขอบนูนสูงขึ้น ก้นแผลสะอาดเรียบถูกต้องไม่เจ็บ
ระยะนี้หากไม่รักษาก็จะหายได้เองภายใน 3-8 สัปดาห์
อาการระยะที่สอง หลังจากแผลริมแข็งหายราว 3 สัปดาห์
จะมีไข้ต่ำๆ ปวดศีรษะ เจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล ปวดเมื่อยและปวดตามข้อ
มีผื่นขึ้นตามบริเวณผิวหนัง เช่น แขน ขา ลำตัว ไม่คันและไม่เจ็บปวด
อาจเป็นอยู่ไม่นานวัน หรืออาจนานหลายเดือนก็ได้ ส่วนใหญ่จะหายไปราว 4-8 สัปดาห์ ในระยะนี้อาจมีลักษณะเป็นตุ่มนูนขึ้นมา
คล้ายยุงกัด แต่มีเนื้อยุ่ย ๆ คลุมบริเวณนี้แพร่เชื้อได้มาก อาจมีต่อมน้ำเหลืองโตหรือผมร่วงได้
ผู้ที่ไม่ได้รับการรักษาเมื่ออาการทุกอย่างหายก็จะเข้าสู่ระยะแฝง ซึ่งเป็นระยะที่จะไม่มีอาการอะไรทั้งสิ้น แต่จะทราบได้โดยการตรวจพบน้ำเหลืองให้ผลบวก
อาการในระยะที่สาม พบว่าหนึ่งในสี่ของระยะแฝงจะเปลี่ยนเป็นระยะที่สาม
ซึ่งต้องใช้เวลานาน โดยจะไปเกิดเป็นแผลและเนื้อตายในหัวใจ หรือระบบประสาท
ทำให้เกิดอาการคล้ายคนเป็นโรคจิต การวินิจฉัยโรคนี้ ส่วนใหญ่อาศัยจากการตรวจน้ำเหลือง นอกจากนี้อาจจะขูดบริเวณแผลหรือผื่นหรือเนื้อนูน มาตรวจด้วยกล้องพิเศษ และอาจต้องเจาะน้ำไสันหลัง มาตรวจด้วยในบางรายหญิงมีครรภ์ที่เป็นซิฟิลิสต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ เพราะซิฟิลิสจะเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ เช่น ทำให้แท้ง ทารกตายในครรภ์ หรือเป็นฟิซิลิสแต่กำเนิด
หนองใน เกิดจากเชื้อไนซ์ซีเรียโกโนร์เรีย มีระยะฟักตัวประมาณ 3-5 วัน
อาการมักเริ่มด้วยปัสสาวะแสบ ขัด มีตกขาวถ้าไม่ได้รับการรักษา โรคนี้อาจลุกลามเข้าไปในโพรงมดลูก ท่อนำไข่ และรังไข่ ทำให้ท่อนำไข่ตันและเป็นหมันในที่สุด
แผลริมอ่อน เกิดจากเชื้อฮีโมฟิลุสดูเครยี (hemophilus ducreyi) มีระยะฟักตัวประมาร 2-5 วัน
เชื้อไวรัส VZV นี้เมื่อเริ่มเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เป็นโรคอีสุกอีใส ซึ่งมักเกิดในเด็ก และจะหายได้เอง ภายใน 1-2 สัปดาห์ เมื่อหายจากโรคอีสุกอีใสแล้ว เชื้อไวรัสชนิดนี้จะไปหลบซ่อนอยู่ในปมประสาทของร่างกาย และรอเวลาที่เหมาะสมกับการเพิ่มจำนวนของไวรัส หรือเวลาที่ร่างกายอ่อนเพลีย ภูมิคุ้มกันลดลง อดนอน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัสส่วนใหญ่จะใช้เวลานานเป็นสิบ ๆ ปี หลังจากที่เป็นโรคอีสุกอีใสแล้ว และพบมากในผู้สูงอายุ เพราะผู้สูงอายุ บางคนจะมีภูมิต้านทานลดต่ำลงหรืออ่อนแอลง
อาการของโรคงูสวัด แบ่งได้เป็น 3 ระยะ ดังนี้ เริ่มต้นผู้ป่วยจะมีอาการปวดแสบร้อนลึก ๆ โดยหาสาเหตุไม่ได้ ทั้งนี้เพราะช่วงนี้ภูมิต้านทานของร่างกายลดต่ำลง ทำให้เชื้อไวรัสเริ่มเพิ่มจำนวน เกิดการติดเชื้อ ณ ระบบประสาท จึงมีอาการปวดแสบร้อนลึก ๆ ในระดับเส้นประสาท หลังจากที่ปวดแสบร้อนได้ประมา 2-3 วัน จะเข้าสู่ระยะที่ 2 เริ่มมีผื่นแดง ต่อมากลายเป็นตุ่มน้ำใสเต่ง ๆ (รูปร่างคล้ายหยดน้ำกลิ้งบนใบบัว) เรียงกันเป็นกลุ่ม ๆ เป็นแนวยาว ๆ ตามเส้นประสาทของร่างกายเป็นหย่อม ๆ เช่น ตามความยาวของแขน หรือตามความยาวของขา หรือรอบเอว รอบหลัง หรือศีรษะ เป็นต้น ตุ้มน้ำใสเต่ง ๆ ของงูสวัดนี้จะแตกออกเป็นแผลต่อมาก็จะตกสะเก็ด และหายได้เองภายใน 2 สัปดาห์ เมื่อตุ่มแตก และแผลหายดีแล้ว (ระยะที่ 3) ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะยังมีอาการปวดแสบร้อนลึก ๆ ตามรอยแนวของโรคที่เกิดขึ้น ในบางคนอาจเกิดได้อีกเป็นเดือน หรือหลาย ๆ เดือน โดยเฉพาะผู้สูงอายุบางคนอาจมีอาการปวดแสบร้อนลึก ๆ หลังจากที่แผลหายดีแล้วเป็นปี สิวอักเสบ, สิวมีพิษ, สิวติดเชื้อ ,สิวเกิดจากน้ำเหลืองเสีย
สิวเป็นโรคเรื้อรัง พบบ่อยมากเป็นอันดับต้นๆ ของปัญหาโรคผิวหนัง มักเป็นในวัยรุ่น แต่บางครั้งเลยวัยรุ่นไปแล้วก็อาจเป็นได้ ลักษณะที่บ่งบอกว่าเป็นสิวคือ เป็นเม็ดสิวอุดตันที่เรียกกันว่า คอมมิโดน ถ้าเป็นเม็ดนูนเล็กๆ ไม่มีรูเปิดเรียก สิวหัวขาว ถ้ามีรูเปิดที่ผิวหนังมองเห็นเป็นจุดดำอยู่ตรงกลางเรียกสิวหัวดำ นอกจากนี้อาจเกิดเป็นตุ่มนูนเล็กๆ แดงๆ อาจเห็นเป็นตุ่มหนอง ,หรือตุ่มนูนแข็งเม็ดโต หรือตุ่มแดงอักเสบแบบถุงซีสต์ที่เรียกกันว่า สิวหัวช้าง สิวที่สร้างความวิตกมากคือ สิวบริเวณใบหน้า ซึ่งเป็นบริเวณที่พบบ่อยในบางรายอาจเกิดบริเวณ คอ , หลัง, อก, สาเหตุที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ ฮอร์โมนเพศ เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น ต่อมไขมันโตเต็มที่ผลิตน้ำมันมากขึ้น ท่อของต่อมไขมันหนาตัวมีการอุดตัน น้ำมันระบายออกไม่ได้คั่งค้างอยู่ภายใน เชื้อแบคทีเรียที่อยู่บริเวณนี้แบ่งตัวเพิ่มขึ้น ย่อยสลายไขมันทำให้เกิดความระคายเคือง และท่อต่อมไขมันแตกออก กรดไขมันออกสู่บริเวณข้างเคียงเกิดเป็นสิวอักเสบขึ้น ความรุนแรงของสิวแต่ละคนแตกต่างกันไป บางรายเป็นมากบางรายเป็นน้อย สิวอักเสบอาจกำเริบได้ในช่วงมีความเครียด เช่น อดนอน หรือในผู้หญิงช่วงใกล้มีประจำเดือน นอกจากนี้การบีบแกะสิว จะกระทบกระเทือนและนำเชื้อโรคเกิดการอักเสบมากขึ้น และมีโอกาสเกิดรอยแผลเป็นเมื่อสิวหายแล้ว โรคผิวหนังแพ้รุนแรง /โรคสะเก็ดเงิน /เรื้อนกวาง
ผื่นพีอาร์ เป็นโรคผิวหนังที่พบได้ประมาณร้อยละ 1-2 ของคนทั่วไป มักพบในวันรุ่นและผู้ใหญ่ ช่วงอายุประมาณ 15-40 ปี พบในชายและหญิงในอัตราพอๆกัน เป็นโรคที่ไม่เป็นอันตรายและหายได้เอง โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดๆ และจะไม่เป็นซ้ำอีก สาเหตุ โรคนี้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้แน่ชัด สันนิฐานว่าอาจเกิดจากเชื้อไวรัส (ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ชัดเจน) อาการ ผู้ป่วยจะมีผื่นขึ้นตามตัว โดยที่ไม่มีอาการไข้และสุขภาพทั่วไปแข็งแรงดี
เริ่มแรกจะมีผื่นแดงรูปร่างกลมรี ขอบชัด ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-6 ซม. จำนวน1ผื่นที่ผิวหนัง โดยมากมักจะขึ้นบริเวณหน้าอก บางรายอาจขึ้นบริเวณหลังด้วย ผื่นอันแรกนี้จะเรียกว่าผื่นแจ้งโรค (herald patch) หลังจากนั้นประมาณ 1-2 อาทิตย์ ก็จะมีผื่นขนาดเล็กกว่า (เส้นผ่าศุนย์กลางประมาณ 0.5-1 ซม.) ค่อยๆทยอยขึ้นตามตัวอาจมีอาการคันเล็กน้อย ผื่นเหล่านี้จะขึ้นที่หน้าอก หน้าท้อง และอาจขึ้นที่หลัง ผื่นมักจะหายไปได้เองภายใน 2-6 สัปดาห์ (บางรายอาจหายไปในเวลา 3-4 เดือน)โรคสะเก็ดเงิน ถ้าเข้ามารักษาเร็วไม่ทิ้งไว้จนเรื้อรังรุกรามไปทั่วตัว ยังรักษาให้หาย ยับยั้งโรคไว้ได้ด้วยยาสมุนไพรบางชนิดที่แนะนำในเว็บเพจนี้ ระยะการรักษา 3-6 เดือน โดยประมาณ *โรคประดงไฟ หรือLichen amyloidosis สาเหตุไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคอย่างเดียว ผิวแพ้ง่ายเกินไป และสร้างเซลล์ผิดปกติที่ผิวหนัง แต่ส่วนใหญ่เหตุกระตุ้นที่พบได้บ่อยคือการเสียดสีที่บริเวณนั้นบ่อยๆ เช่นการ เกา การถู ดังนั้นน บริเวณที่พบโรคนี้ได้บ่อยมักเป็นที่หน้าแข้งเนื่องจากเราต้องใส่การเกง ถุงเท้า ถุงน่อง การเสียดสีซ้ำไปซ้ำมาจะเป็นตัวการทำให้เกิดการทำลายของเซลล์ผิวหนัง(keratinocyte) เมื่อเกิดการตายของเซลล์ผิวหนัง มันจะไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยโปรตีนออกมา(คล้ายกับที่เวลาเราล้มเป็นแผลถลอกแล้วมีการสร้างสะเก็ดแผล) แต่กระบวนการสร้างโปรตีนนั้นไม่สมบูรณ์ กลไกการขับออกจากร่างกายจึงบกพร่อง กลับกลายเป็นสะสมไว้ใต้ผิวหนังเป็นตุ่มนูนหนา คล้ายผื่นขึ้นมาแทน การสะสมของโปรตีนใต้ผิวหนังจะไปรบกวนปลายประสาททำให้เกิดอาการคันขึ้นได้ด้วย
ยาที่ใช้รักษาโรคผิวหนังทั้งชนิดที่ติดเชื้อ /แบบไม่มีเชื้อ/โรคคันประดงไฟ และ โรคผิวหนังจากการแพ้สิ่งมากระตุ้นต่างๆ
การรักษาโดยแนวทางของหมอมานิตย์ ศรีพจน์ ด้วยประสบการณ์20ปี ที่ต้องเจอกับโรคผิวหนังที่หายยากหลากหลายชนิด จากการผลรักษาด้วยยาสมุนไพรที่คิดค้นและสูตรวิธีการรักษาได้ผลดีน่าพอใจทั้งคนไข้และหมอดีใจไปด้วยกัน ระยะเวลาการรักษาประมาณ 2-4 เดือน ระยะการรักษาไม่นานเกินไป และเป็นการปรับสมดุลของร่างกายไปในตัวพร้อมกับการรักษา ส่วนค่ายารักษาไม่แพง สามารถรักษาหายได้ ติดต่อปรึกษาหมอก่อนได้ครับ ส่วนยาที่จัดให้คนไข้ ขึ้นอยู่กับลักษณะอาการขอให้หมอวินิจฉัยก่อนนะครับ โปรดติดต่อปรึกษาที่ โทร/ไลน์ 0823877288 ไอดีไลน์ yaforyou ด้วยความยินดีครับ Hello, patients or relatives or friends can contact to treat various illnesses such as Parkinson’s, old age diseases, hemiplegia, paralysis, cancer, insomnia, muscle pain, migraine, kidney disease and joints How to use natural substances that give satisfactory results. Contact us, add Line ID yaforyou (KANPHATPANTHAI CHIANGMAI, treated by Dr. Manit owner / of the Clinic
*ข้อปฏิบัติระหว่างการรักษา -หลีกเลี่ยงหรืองดอาหารรสหวาน ขนมอบกรอบต่างๆ น้ำหรืออาหารที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ และผลไม้รสหวานจัด -งดอาหารรสจัด งดอาหารที่ไม่สุกเ ไม่สด ไม่สะอาด -งดเครื่องดิ่มมีแอลกอฮอล์ เหล้า เบียร์ -งดอาหาร ผัก ผลไม้ดอง และงดหน่อไม้ -อดทน อดกลั้น เมื่อมีอาการคัน ไม่ควรเกาเพราะจำให้ติดการเกาเป็นนิสัย ให้แก้ไขได้โดยเช็ดถูด้วยแอลกอฮอล์ทั่วไป แต่ถ้ายังไม่หายคันอีก ให้เช็ดด้วยผ้าสะอาดชุบน้ำเย็น อีกครั้ง -หากมีกิจกรรมร่วมเพศโดยฝ่ายชายต้องสวมถุงยางอนามัย เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพตามมาที่ไม่อาจคาดการณ์ได้
